img

Date : 2024-04-19



มาซาทาดะ อิชิอิ เปิดใจผ่าน "ฟีฟ่า" จะพา ทีมชาติไทย ไปบอลโลก

มาซาทาดะ อิชิอิ เปิดใจผ่าน "ฟีฟ่า" จะพา ทีมชาติไทย ไปบอลโลก

เปิดใจผ่านฟีฟ่า !!!

วันที่ 18 เมษายน มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าโค้ชชาวญี่ปุ่น เปิดใจผ่าน เว็บไซต์สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า

จะพา "ทีมชาติไทย" ไป ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย

Q : คุณเข้ามาเป็นโค้ชทีมชาติไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้น ก็มีประสบการณ์มากมายกับสโมสรในประเทศ คุณประทับใจอะไรในฟุตบอลไทย

A : สมัยที่ผมค้าแข้งในเจลีก เรามีโอกาสได้เจอทีมจากไทยบ้างเล็กน้อย ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และจำได้ว่านักเตะไทยมีความแข็งแกร่งมาก ทั้งในการเล่นเกมรุก และเกมรับ พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตัวต่อตัว มากกว่าหากเทียบกับนักเตะญี่ปุ่น แต่การประสานงานกันระหว่างนักเตะยังต้องดีขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่งผมมองว่าการที่มีนักเตะไทยมาค้าแข้งในเจลีก มันช่วยได้มาก และนักเตะไทยในเจลีกก็สามารถนำสิ่งที่เขาได้รับจากเจลีก ไปใช้กับทีมชาติบ้านเกิดได้

Q : แม้จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ของ เอเชียน คัพ แต่ก็ต้องถูกหยุดเส้นทาง โดย อุซเบกิสถาน คุณได้เรียนรู้อะไรจากทัวร์นาเมนต์นี้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

A : ตั้งแต่ปีใหม่ที่เราได้อุ่นเครื่องกับญี่ปุ่น ในมุมมองของผมเราได้มีการจัดระเบียบเกมรับและพัฒนาเรื่องพื้นฐานให้ดียิ่งขึ้น เราต้องเพิ่มเรื่องการเล่นเกมรับเป็นทีม และลดความผิดพลาดจนทำให้เกิดการเสียประตู ซึ่งความพยายามเหล่านี้ ได้รับผลตอบแทนเป็นอย่างดีใน เอเชียน คัพ ซึ่งเราได้เจอกับทีมที่มีอันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง สูงกว่าเราทั้งหมด เราจำเป็นต้องเล่นเกมรับ และมันมีความสำคัญมากที่ได้เห็นพัฒนาการของทีม ทั้งในเอเชียน คัพ รวมถึงเกมที่บุกไปเยือน เกาหลีใต้ เมื่อเดือนมีนาคม

Q : คุณคิดว่าคุณประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน จากเกมที่โซล เพราะมีรายงานข่าวว่า คนไทยติดตามเกมนี้จำนวนมาก เช่นเดียวกับแฟนบอลเกาหลีใต้ที่ช็อค แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ในเกมที่ ประเทศไทย

A : ตอนที่ผมต้องเดินทางมาเจอกับ เกาหลีใต้ เราได้มีการวิเคราห์กันอย่างละเอียด และเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด และพยายามนำการเล่นเกมรับ ที่เราต้องพัฒนามาจาก เอเชียน คัพ ให้ดีขึ้นต่อไป เราพยายามเล่นอย่างมีระเบียบวินัย และเพิ่มศักยภาพในเกมรุกยามที่เราครองบอล ในความคิดผม ความสำเร็จจากเกมเยือนเกาหลีใต้ เกิดขึ้นมาจากเกมที่เราไปอุ่นเครื่องกับ ญี่ปุ่น และ เอเชียน คัพ เมื่อเราได้ผลเสมอกลับออกมา ทำให้เกมในบ้านเราได้รับความคาดหวังอย่างมาก และนักเตะก็มีความมั่นใจ จนบางครั้งอาจจะเสียสมาธิ ซึ่งผมต้องพยายามวิเคราะห์ว่าทำไมเราถึงแพ้ในเกมนั้น และแก้ไขให้มันถูกต้อง

Q : ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมชาติไทย คุณได้โอกาสทดสอบตัวเองในการเจอกับทีมชั้นนำในเอเชีย ทั้งเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น คุณคิดว่า ไทย จะสามารถไปถึงจุดนี้ในอนาคตได้หรือไม่ เพราะอะไร

A : ทุกอย่างไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตา ยกตัวอย่างญี่ปุ่น เพิ่งขยับขึ้นมาหลังจากที่ก่อตั้งเจลีกมาได้ 30 ปี ผมคิดว่าไทยเองก็สามารถทำได้เหมือนกัน เราต้องพยายามยกระดับฟุตบอลไทยลีก และต้องมีโค้ชและสโมสรที่เข้าใจภาพรวมของการพัฒนาฟุตบอลไทย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ทุกคนที่มีส่วนในฟุตบอลไทย ต้องพยายามร่วมกัน หาวิธีที่ดีที่สุดในการสนับสนุนทีมชาติของเรา และสร้างเป้าหมายที่สูงไว้ก่อน และที่สำคัญคือเรื่องวิสัยทัศน์ ตั้งแต่ผมมาคุมทีม ผมได้เน้นย้ำเรื่องการตั้งเป้าหมายในฟุตบอลโลก นี่คือเป้าหมายหลักที่ชัดเจนที่สุดในการกำหนดวิสัยทัศน์ของเรา

Q : การเพิ่มจำนวนทีมเข้าร่วมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็น 48 ทีม ทำให้ไทยดูเหมือนจะมีโอกาสที่ดี มันเป็นตัวแปรในการเพิ่มความคาดหวังหรือไม่

A : มีเสียงสะท้อน และสนับสนุนเราอย่างมาก ตอนที่เดินทางไปเกาหลีใต้ พูดตามตรงว่าเรายังไม่สามารถยกระดับไปเทียบกับเกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่นได้ ไทยน่าจะอยู่ที่ประมาณ อันดับ 20 ของ เอเชีย นั่นหมายความว่าเราจะต้องเจอกับทีมที่เหนือกว่า และสู้เพื่อไปฟุตบอลโลก ไม่มีใครจะบอกว่ามันเป็นเรื่องง่าย แต่ตราบใดที่เรามีโอกาส แม้จะน้อยสักแค่ไหน ผมก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ต่อไป

 

 

Q : ฟุตบอลโลก มีความหมายต่อคุณ ในฐานะโค้ชอย่างไร

A : ฟุตบอลโลก เป็นสิ่งที่ทุกคนในวงการฟุตบอลอย่างเรารู้ว่ามันเป็นความใฝ่ฝัน แม้จะแค่ครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งผมไม่เคยได้สัมผัสในสมัยที่เป็นนักเตะ แต่มันมีความหมายมากสำหรับตัวผม เมื่อได้มีโอกาสเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทย ผมรู้สึกขอบคุณมากกับโอกาสในครั้งนี้ และจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดขึ้นกับผมและทีมชาติไทย

Q : คุณเป็นโค้ชญี่ปุ่นคนที่สองของทีมชาติไทย ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ ช่วยพูดถึงความท้าทาย

A: ผมคิดว่า นิชิโนะ แค่โชคร้าย เขาต้องเจอกับสถานการณ์การระบาดของโควิด และทำให้งานของเขาต้องบริหารจัดการหลายอย่าง อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวผม ผมพยายามให้ทุกคนเข้ามาร่วมมือกัน โดยเฉพาะสโมสรในฟุตบอลไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ทีมในระดับลีกสูงสุด แต่ยังรวมถึง ไทยลีก 2 และ 3 ด้วย โดยมองถึงเป้าหมายในปี 2026 ผมต้องการสร้างสภาพแวดล้อม ที่ไม่ได้มีแค่ผมและทีมงานที่ทำงานกันอย่างโดดเดี่ยว แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลไทย สามารถมาร่วมมือกันและช่วยเหลือกันได้

Q : ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย และตอนนี้ทีมอยู่อันดับ 3 ของกลุ่ม และมีแต้มตามหลังจีนอยู่สามคะแนน ซึ่งเป็นทีมที่ต้องเจอในเกมต่อไป คุณเตรียมตัวอย่างไรสำหรับเกมนี้

A : ถือว่าเป็นครั้งแรกในฐานะโค้ชทีมชาติที่ต้องเจอกับความกดดันในการต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อเตรียมทีมและต้องได้มาซึ่งผลการแข่งขัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากที่เราแพ้ เกาหลีใต้ ในบ้านของเรามา แต่ผมคิดว่าเราจะพยายามเก็บหกคะแนนเต็มจากสองเกมที่เหลือ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น ด้วยเหตุนี้ ผมพยายามทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากที่สุด และวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้ามให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


cr FIFA

 




Date : 2024-04-19